” ภาวะวูบหมดสติ ” สัญญาณอันตราย ภัยร้ายที่ไมควรมองข้าม

4545 จำนวนผู้เข้าชม  | 

” ภาวะวูบหมดสติ ” สัญญาณอันตราย ภัยร้ายที่ไมควรมองข้าม

ภาวะวูบหมดสติ (Syncopal Attack)

ภาวะวูบหมดสติคืออะไร

     ภาวะวูบหมดสติ (Syncopal Attack) หมายถึงภาวะที่มีการสูญเสียการรับรู้สติ ซึ่งมีลักษณะเฉพาะได้แก่ หมดสติเฉียบพลัน เกิดขึ้นในระยะเวลาอันสั้น และสามารถฟื้นคืนสติได้ด้วยตัวเอง (Transient loss of consciousness : TLOC)

เกิดอะไรขึ้นในขณะที่วูบหมดสติ

     การหมดสติ เกิดจากเลือดไปเลี้ยงสมองลดลงชั่วขณะ ทำให้สมองที่เป็นศูนย์ควบคุมการรู้สติขาดออกซิเจนชั่วคราวจึงทำให้ผู้ป่วยหมดสติ

อาการแสดงที่พบในขณะหมดสติ ได้แก่

-        เรียกไม่รู้สึกตัว

-        ล้มลงกับพื้น ทรงตัวไม่อยู่

-        อาจมีอาการเกร็งที่มือ, เท้า, ตาค้างชั่วขณะ

-        ปลายมือ ปลายเท้าเย็น, เหงื่อออกที่ใบหน้า, หน้าและริมฝีปากซีด

-        อาจมีอาการอุจจาระ และ ปัสสาวะราด

-        ผู้ป่วยจะจำเหตุการณ์ตอนหมดสติไม่ได้

-        ระยะเวลาการหมดสติ พบได้ตั้งแต่ 30 วินาที – 5 นาที ขึ้นอยู่กับสุขภาพพื้นฐานเดิมและอายุของผู้ป่วย

-        มีอาการเตือนล่วงหน้าหรือไม่ ผู้ป่วยบางราย อาจมีอาการเตือนล่วงหน้าก่อนหมดสติ เช่น รู้สึกหวิวๆ มึนศีรษะ, โคลงเคลง, ตาพร่า เห็นสีวูบวาบ เหมือนตัวลอยๆ, คลื่นไส้

สาเหตุของการหมดสติมีอะไรบ้าง

1. สาเหตุที่มาจากโรคของหัวใจโดยตรง เช่น

– หลอดเลือดหัวใจตีบ

– ลิ้นหัวใจตีบ

– หัวใจเต้นผิดจังหวะทั้งชนิดเร็วและช้า

– กล้ามเนื้อหัวใจบีบตัวผิดปกติ, ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน

– กล้ามเนื้อหัวใจหนาตัวผิดปกติ

2. สาเหตุที่มาจากระบบประสาทอัตโนมัติทำงานผิดปกติ จะพบในบางสถานการณ์ที่จำเพาะ เช่น

– หลังการไอ จาม  เบ่งอุจจาระ ปัสสาวะ

– ยืนนานๆ ในที่มีคนแออัด หรืออากาศร้อนจัด

– กลัวการเจาะเลือด กลัวเข็มฉีดยา

– หลังการออกกำลังกาย

พบในโรคเรื้อรังที่มีผลต่อการทำงานของระบบประสาท, เส้นประสาทเสื่อม

– เบาหวาน (Orthostatic hypotension)

– โรคทางสมองบางอย่างที่มีระบบประสาทอัตโนมัติเสื่อม เช่น พาร์กินสัน, สมองเสื่อม

– อันตรายต่อไขสันหลัง

3. ภาวะการสูญเสียเลือด หรือ ขาดน้ำ

4. ยาบางชนิด โดยเฉพาะยาลดความดันโลหิต, ยาขับปัสสาวะ, ยาต้านเศร้า, ยารักษาต่อมลูกหมาก

เมื่อพบผู้ป่วยหมดสติ ควรทำอย่างไร

เมื่อพบผู้ป่วยหมดสติ ควรให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ดังนี้ คือ

-        ให้ผู้ป่วยนอนราบกับพื้นที่สะอาด ปลอดภัย

-        ไม่มุงดู เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก

-        ตะแคงศีรษะไปด้านข้าง ป้องกันลิ้นตก

-        ถ้ากำลังรับประทานอาหารอยู่ มีอาหารในปาก  มีฟันปลอมอยู่ ควรใช้ผ้าล้วงเศษอาหารออกจากปาก และถอดฟันปลอมได้ ให้ช่วยถอดฟันปลอม

-        เรียกรถฉุกเฉิน หรือนำส่งโรงพยาบาล

แนวทางการตรวจวินิจฉัยผู้ป่วย

การประเมินผู้ป่วยที่มาด้วยอาการวูบหมดสติ แพทย์จะซักประวัติจากผู้เห็นเหตุการณ์ และจากผู้ป่วยภายหลังฟื้นสติแล้ว ตรวจร่างกายในกรณีที่ผู้ป่วยมีสัญญานชีพและอาการทางร่างกายที่ไม่คงที่ พร้อมการรักษาตามสาเหตุของโรคต่อไป

การตรวจเพิ่มเติม

การตรวจพิเศษเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับโรคที่เป็นสาเหตุของการหมดสติ เช่น

- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ, Holter EKG ในผู้ป่วยที่สงสัยภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ

- ตรวจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ (Echocardiogram) ในผู้ป่วยที่จำเป็นต้องวินิจฉัยแยกโรคหัวใจบางอย่าง เช่น ลิ้นหัวใจตีบ, กล้ามเนื้อหัวใจหนา

- ตรวจ Till Table Test ในผู้ป่วยที่สงสัยภาวะวูบหมดสติจากความดันต่ำเวลาเปลี่ยนอิริยาบถ Orthotatic Hypotension หรือ ความดันต่ำจากการยืนนานๆ หรือหลังออกกำลังกาย

- ตรวจ Coronary CTA หรือ CAG ในผู้ป่วยที่สงสัยภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบ

- ตรวจ MRI Brain ในผู้ป่วยที่สงสัยภาวะสมองเสื่อม

โรคนี้รักษาอย่างไร

-        การรักษาโรคขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้วูบ ซึ่งแพทย์จะรักษาตามเหตุนั้นๆ ได้แก่ การรักษาภาวะโรคหัวใจขาดเลือด (การใช้ยา, การขยายหลอดเลือดด้วยบอลลูน)

-        การใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจในผู้ที่หัวใจเต้นช้าผิดจังหวะ (Pacemaker)

-        การใช้ยาบางชนิดในผู้ป่วยที่มี Orthostatic Hypotension

-        การแนะนำให้ผู้ป่วยใส่ถุงน่อง เพื่อลดการขยายตัวของหลอดเลืด ในผู้ที่วูบหลังยืนนานๆ

-        การป้องกันภาวะวูบ

-        การป้องกันการวูบ สามารถทำได้เพื่อลดความรุนแรง ลดความถี่ของการเกิดอาการและลดอุบัติเหตุซ้ำเติมจากการวูบ ได้แก่

-        ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ

-        หลีกเลี่ยงการยืนนานๆ ในที่อากาศร้อนจัด

-        หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์, สูบบุหรี่

-        ออกกำลังกายแบบแอโรบิก อย่างน้อย 4 ครั้ง / สัปดาห์ ครั้งละไม่ต่ำกว่า 30 นาที

-        นั่งปัสสาวะในผู้ที่วูบหลังเบ่งปัสสาวะ, งดเบ่งอุจจาระและปัสสาวะแรงๆ

-        ออกกำลังกายแบบ hand grip exercise ได้แก่ บีบลูกบอลด้วยมือ 2 ข้าง ทำซ้ำๆ ชุดละ 10 ครั้ง อย่างน้อย 2 -3 ชุด /วัน

-        หลีกเลี่ยงการไอหรือจามแรงๆ

-        หลีกเลี่ยงอาชีพที่จะมีอันตรายจากอุบัติเหตุซ้ำเติมขณะวูบ เช่น ช่างทาสี ช่างไม้ นักบิน หรือคนขับรถรับจ้าง

โรคนี้รักษาหายหรือไม่ เกิดเป็นซ้ำได้หรือไม่

     การรักษาและควบคุมภาวะวูบหมดสติ ขึ้นอยู่กับสาเหตุของการเกิดโรค เช่น สามารถรักษาได้หายขาดได้ในโรควูบที่มีเหตุจากลิ้นหัวใจตีบ โดยการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ, การผ่าตัดลิ้นหัวใจ, การขยายบอลลูนที่ลิ้นหัวใจ

-        การรักษาหลอดเลือดหัวใจตีบด้วยยาหรือการขยายบอลลูน กรณีวูบจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด

-        การรักษาภาวะหัวใจเต้นช้า โดยการใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ Pacemaker

-        การปรับยาที่เป็นสาเหตุวูบ เช่น หยุดยาขับปัสสาวะ หรือยาที่ขยายหลอดเลือดมากเกินไป

-        ภาวะวูบบางอย่างไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เช่น การเสื่อมของระบบประสาทอัตโนมัติ, วูบจากหลอดเลือดขยายตัว แต่สามารถปรับการรักษาเพื่อลดความรุนแรงและความถี่ของโรคได้ โดยการให้ยาที่เหมาะสม ตลอดจนการปรับการใช้ชีวิต หลีกเลี่ยงงานบางอาชีพที่จะมีอันตรายจากการบาดเจ็บซ้ำเติมขณะวูบ เช่น ช่างทาสี นักบิน พนักงานขับรถ

การแนะนำที่สำคัญ

     ควรมีการตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจ ตลอดจนโรคที่มีผลให้เกิดการวูบหมดสติ ควรพบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาเมื่อสงสัยว่ามีอาการคล้ายจะวูบหรือเคยมีอาการวูบหมดสติมาก่อน เพื่อจะได้รับการตรวจเพิ่มเติมที่เหมาะสมต่อไป

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : พญ. ชาดา โชติพันธุ์วิทยากุล

อายุรศาสตร์โรคหัวใจและหลอดเลือด

https://www.vejthani.com/th

สยามสไมล์

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้